top of page
Logo 12.png

นโยบายนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลสำหรับกล้องวงจรปิด 

บริษัท ไทยสเตมไลฟ์ จำกัด ซึ่งต่อไปนี้จะเรียกว่า “บริษัทฯ” ได้ติดตั้งและใช้กล้องวงจรปิดสำหรับสังเกตการณ์และบันทึกภาพบุคคลที่อยู่ในและบริเวณโดยรอบของอาคารและสถานที่ของบริษัทฯ เพื่อรักษาความปลอดภัยในชีวิต ร่างกาย และทรัพย์สิน
   นโยบายฉบับนี้ ได้อธิบายแนวปฏิบัติเกี่ยวกับการเก็บรวบรวมใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้เก็บรวบรวมได้จากกล้องวงจรปิด รวมถึงสิทธิต่างๆ ของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ("พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล") ดังที่จะกล่าวในนโยบายฉบับนี้ 

ขอบเขตนโยบาย

 
   นโยบายนี้ครอบคลุมถึง


   1.     วิธีที่บริษัทฯ ใช้เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล และข้อมูลส่วนบุคคลที่จัดเก็บ
   2.     วัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
   3.     การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
   4.     ระยะเวลาการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล
   5.     สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
   6.     มาตรการในการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูล
   7.     การเปลี่ยนแปลงนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลสำหรับกล้องวงจรปิด
   8.    การรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล
   9.    การแจ้งเหตุละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล

วิธีการเก็บรวบรวมข้อมูล


เมื่อท่านอยู่ในและบริเวณโดยรอบของอาคารและสถานที่ของบริษัทฯ ข้อมูลของท่านจะถูกบันทึกผ่านระบบรักษาความปลอดภัยของบริษัทฯ เช่น ระบบกล้องวงจรปิด ในรูปแบบเอกสารและรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์

ข้อมูลส่วนบุคคลที่จัดเก็บ


ภาพถ่ายหรือภาพเคลื่อนไหวที่ถูกบันทึกไว้

วัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล


การเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทฯ จะดำเนินการผ่านเจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ หรือบุคคลใดๆ ซึ่งมีความเกี่ยวข้อง หรือที่จะกระทำการแทนหรือในนามบริษัทฯ ที่จำเป็นในการควบคุมและรักษาความปลอดภัยบริเวณอาคารและสถานที่ของบริษัทฯ อาจอาศัยฐานประโยชน์อันชอบด้วยกฎหมาย (Legitimate interest) และ ฐานหน้าที่ตามกฎหมาย (Legal Obligation) ดังนี้


1. เพื่อควบคุมการเข้าอาคารและสถานที่ ตลอดจนเพื่อสังเกตการณ์ ป้องกัน ขัดขวาง และตรวจสอบการเข้าอาคารและสถานที่โดยมิได้รับอนุญาต เพื่อรักษาความปลอดภัยบริเวณอาคารและสถานที่ของบริษัทฯ
2. เพื่อควบคุมการเข้าถึงแหล่งเทคโนโลยีสารสนเทศและฐานข้อมูลของบริษัทฯ
3. เพื่อจัดเก็บข้อมูลจากระบบกล้องวงจรปิดไว้ในฐานข้อมูลของบริษัทฯ รวมทั้งเพื่อดูแลและตรวจสอบระบบกล้องวงจรปิดตามวัตถุประสงค์ข้างต้น

4. เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการดำเนินการทางกฎหมายใดๆ รวมถึงการดำเนินการที่จำเป็นในกระบวนการทางกฎหมาย หรือ การปฏิบัติตามคำสั่งของศาลหรือหน่วยงานที่มีอำนาจหน้าที่ตามกฎหมาย

5. ในกรณีที่บริษัทฯ มีความจำเป็นต้องเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย หรือดำเนินการประมวลผลใดๆ ต่อข้อมูลส่วนตัวของท่าน นอกเหนือไปที่วัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ในนโยบายฉบับนี้ บริษัทฯ จะแจ้งการแก้ไขเปลี่ยนแปลงไว้ที่เว็บไซต์ www.thaistamlife.com, www.thaistemlife.co.th หรือแจ้งเป็นประกาศที่บริษัทฯ ให้ท่านทราบ

การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล


โดยนโยบายและแนวปฏิบัติ บริษัทฯ จะไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่เก็บรวบรวมผ่านระบบกล้องวงจรปิดดังกล่าวให้แก่บุคคลภายนอก แต่อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ อาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเฉพาะกรณีที่กฎหมายกำหนดให้ดำเนินการดังกล่าวเท่านั้น เช่น ศาล อัยการ เจ้าหน้าที่ตำรวจ เป็นต้น

ระยะเวลาการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล


บริษัทฯ จะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้เป็นระยะเวลาไม่เกิน 90 วัน นับแต่วันที่ท่านได้เข้าอาคารหรือสถานที่ของบริษัทฯ หรือหลังจากครบกำหนดอายุความในการดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อพ้นกำหนดระยะเวลาดังกล่าว ภาพที่บันทึกไว้โดยกล้องวงจรปิดนั้นจะถูกลบโดยอัติโนมัติ

สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล


ท่านมีสิทธิในข้อมูลส่วนบุคคลของท่านภายใต้ พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ดังต่อไปนี้


1. สิทธิขอถอนความยินยอม (right to withdraw consent) หากท่านได้ให้ความยินยอม บริษัทฯ จะเก็บรวบรวม ใช้ หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ไม่ว่าจะเป็นความยินยอมที่ท่านให้ไว้ก่อนวันที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลใช้บังคับหรือหลังจากนั้น ท่านมีสิทธิที่จะถอนความยินยอมเมื่อใดก็ได้ตลอดเวลา
2.สิทธิขอเข้าถึงข้อมูล (right to access) ท่านมีสิทธิ ขอเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่อยู่ในความรับผิดชอบของบริษัทฯ และขอให้บริษัทฯ ทำสำเนาข้อมูลดังกล่าวให้แก่ท่าน รวมถึงขอให้เปิดเผยที่มาการได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้
3. สิทธิขอถ่ายโอนข้อมูล (right to data portability) ท่านมีสิทธิ ขอรับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในกรณีที่บริษัทฯ ได้จัดทำข้อมูลส่วนบุคคลนั้นอยู่ในรูปแบบให้สามารถอ่านหรือใช้งานได้ด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ ทำงานได้โดยอัตโนมัติและสามารถใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ รวมทั้ง:

- มีสิทธิขอให้บริษัทฯ ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่น เมื่อสามารถทำได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ
- มีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นโดยตรง เว้นแต่ไม่สามารถดำเนินการได้เพราะเหตุทางเทคนิค

 

 

4. สิทธิขอคัดค้าน (right to object) ท่านมีสิทธิ ขอคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในเวลาใดก็ได้ เว้นแต่การเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านนั้น ทำขึ้นเพื่อการดำเนินงานที่จำเป็นภายใต้ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทฯ หรือของบุคคล หรือนิติบุคคลอื่น และไม่เกินขอบเขตที่ท่านสามารถคาดหมายได้อย่างสมเหตุสมผลหรือเพื่อดำเนินการตามภารกิจเพื่อสาธารณประโยชน์

5. สิทธิขอให้ลบหรือทำลายข้อมูล (right to erasure/deletion) ท่านมีสิทธิ ขอลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่านหรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวท่านได้ หากท่านเชื่อว่า ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ถูกเก็บ รวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยนั้น ไม่ชอบด้วยกฎหมายที่เกี่ยวข้องหรือเห็นว่า บริษัทฯ หมดความจำเป็นในการเก็บรักษาไว้ตามวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องในนโยบายฉบับนี้
6. สิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูล (right to restriction of processing) ท่านมีสิทธิ ขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลชั่วคราวในกรณีที่บริษัทฯ อยู่ระหว่างตรวจสอบตามคำร้องขอใช้สิทธิ ขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลหรือขอคัดค้านของท่านหรือ กรณีอื่นใดที่บริษัทฯ หมดความจำเป็นและต้องลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
7. สิทธิขอให้แก้ไขข้อมูล (right to amendment) ท่านมีสิทธิ ขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
8. สิทธิร้องเรียน (right to lodge a complaint) ท่านมีสิทธิ ร้องเรียนต่อผู้มีอำนาจตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง หากท่านเชื่อว่าการเก็บ รวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เป็นการกระทำในลักษณะที่ฝ่าฝืน หรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

 

 


ท่านสามารถใช้สิทธิของท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลข้างต้นได้ โดยติดต่อมาที่ คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทฯ หรือ สามารถ Download แบบคำร้องขอเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล ผ่านทาง www.thaistemlife.com และ www.thaistemlife.co.th และส่งอีเมลถึงเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่อีเมล office@thaistemlife.co.th

 

บริษัทฯ จะแจ้งผลการดำเนินการภายในระยะเวลา 30 วัน นับแต่วันที่บริษัทฯ ได้รับคำขอใช้สิทธิจากท่าน ตามแบบฟอร์มหรือวิธีการที่บริษัทฯ กำหนด ทั้งนี้ หากบริษัทฯ ปฏิเสธคำขอ บริษัทฯ จะแจ้งเหตุผลของการปฏิเสธให้ท่านทราบผ่านช่องทางต่างๆ เช่น ข้อความ (SMS) อีเมล โทรศัพท์ จดหมาย เป็นต้น

มาตรการในการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

 

ภาพถ่ายหรือภาพที่ถูกบันทึกข้างต้นไว้โดยบริษัทฯ สามารถเข้าถึงได้โดยแผนกเทคโนโลยีสารสนเทศ ของบริษัทฯ ในการนี้ บริษัทฯ และบริษัทคู่สัญญาซึ่งเป็นผู้รับจ้างดำเนินการเกี่ยวกับระบบกล้องวงจรปิด ได้จำกัดการเข้าถึงระบบกล้องวงจรปิดในระดับสูงซึ่งจะมีการป้องกันโดยการกำหนดรหัสผ่าน (password) และบันทึกการเข้าสู่ระบบและการปฏิบัติการใดๆ ของผู้เข้าถึงระบบกล้องวงจรปิด และข้อมูลส่วนบุคคล มิอาจเข้าถึงได้โดยมิได้รับอนุญาตจาก ผู้บริหารระดับผู้อำนวยการของบริษัทฯ


บริษัทฯ จะจัดเก็บข้อมูลทั้งหมดอย่างปลอดภัยและเป็นไปตามมาตรฐานในการรักษาความปลอดภัยอย่างเคร่งครัด หากท่านมีเหตุให้เชื่อว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านถูกละเมิด หรือมีข้อสงสัยประการใดเกี่ยวกับนโยบายฉบับนี้ 

 

กรุณาติดต่อคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทฯ ได้ที่ Call Center  081-3407676  เบอร์โทรศัพท์ 02-022-7000#0  
อีเมล์  office@thaistemlife.co.th  ที่อยู่ บริษัท ไทย สเตมไลฟ์ จำกัด เลขที่ 566/3 อาคารไทย สเตมไลฟ์ ซอยรามคำแหง แขวงวังทองหลาง 
เขตวังทองหลาง  กรุงเทพมหานคร 10310


ทั้งนี้ บริษัทฯ จะพิจารณาและแจ้งผลการพิจารณาตามคำร้องของท่านภายใน 30 วันนับแต่วันที่ได้รับคำร้องดังกล่าวการเปลี่ยนแปลงนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลสำหรับกล้องวงจรปิด

 

บริษัทฯ สงวนสิทธิในการเปลี่ยนแปลง แก้ไข หรือปรับปรุงนโยบายฉบับนี้ ได้ตลอดเวลาตามที่เห็นสมควร โดยแจ้งให้ท่านทราบถึงการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว ทั้งนี้ บริษัทฯ จะแจังการเปลี่ยนแปลง แก้ไข หรือปรับปรุงดังกล่าวเอาไว้ในเว็ปไซต์ของบริษัทฯ ซึ่งท่านสามารถตรวจสอบได้ตลอดเวลา

การรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล


บริษัทฯ จะรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ตามหลักการการรักษาความลับ (confidentiality) ความถูกต้องครบถ้วน (integrity) และสภาพพร้อมใช้งาน (availability) ทั้งนี้ เพื่อป้องกันการสูญหาย การเข้าถึง ใช้ เปลี่ยนแปลง แก้ไข หรือเปิดเผย นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้จัดให้มีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งครอบคลุมถึงมาตรการป้องกันด้านการบริหารจัดการ (administrative safeguard) มาตรการป้องกันด้านเทคนิค (technical safeguard) และมาตรการป้องกันทางกายภาพ (physical safeguard) ในเรื่องการเข้าถึงหรือควบคุมการใช้งานข้อมูลส่วนบุคคล (access control) ด้วย

การแจ้งเหตุละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล


ในกรณีที่มีเหตุละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเกิดขึ้น บริษัทฯ จะแจ้งให้สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลทราบภายใน 72 ชั่วโมง นับแต่ทราบเหตุเท่าที่สามารถกระทำได้ ในกรณีที่การละเมิดมีความเสี่ยงสูงที่จะมีผลกระทบต่อสิทธิและเสรีภาพของท่าน บริษัทฯ จะแจ้งการละเมิดให้ท่านทราบพร้อมกับแนวทางการเยียวยาโดยไม่ชักช้าผ่านช่องทางต่าง ๆ เช่น เว็บไซต์ ข้อความ (SMS) อีเมล โทรศัพท์ จดหมาย เป็นต้น

รายละเอียดการติดต่อ


หากท่านมีข้อสงสัยเพิ่มเติมเกี่ยวกับนโยบายฉบับนี้ โปรดติดต่อคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

ได้ที่อีเมล office@thaistemlife.co.th  หรือ Call Center 081-3407676


นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลสำหรับกล้องวงจรปิดฉบับนี้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 03 พฤษภาคม 2565 

ทั้งนี้ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 30 พฤษภาคม 2565 เป็นต้นไป
ประกาศ ณ วันที่ 17 พฤษภาคม 2565
จึงประกาศมาให้ทราบโดยทั่วกัน

 

 

ลิงค์แบบคำร้องขอเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล : ดาวน์โหลด

 

 


 

bottom of page